วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าของเจ้าถั่ว ตอน เลี้ยงเอร็งเหมือนเอาขาแหย่เข้าไปในตะรางซะข้างหนึ่ง

ถั่วน้อยกลอยใจ
21.30 น.
มีเรื่องมาสารภาพ T^T

เมื่อตะกี้ไปแงะบานเกล็ดบ้านข้างหลังมา
ไอ้ถั่วติดแหง็กอยู่ข้างในโกดังร้านพิมพ์ป้าย
ที่ร้านนั้นไม่มีใครอยู่เลย
เลยจำเป็นต้องแงะกระจกบานเกล็ดด้านหลังออก 2 ชิ้น
แงะเสร็จ ไอ้ตัวดีเจือกออกไม่ได้อีก (สำนึกมั่งว่าตัวเอร็งไม่ใช่เล็กๆ แล้ว)
เพราะด้านนอกมีลูกกรงเหล็กดัด
อิ่เจ๊ถอดใจแล้วแต่ก็ยังใส่บานเกล็ดคืนไม่ได้
งานจะเข้าอิ่เจ๊เอา

เมื่อใส่ไม่ได้เลยต้องเขียนป้ายไปแปะไว้
ว่าขอโทษด้วยที่แกะกระจกบานเกล็ดออกโดยไม่ได้รับอนุญาต
เพราะแมวติดอยู่ข้างใน 
กลัวจะไปทำความเสียหายให้ข้าวของ
เลยต้องถอดบานเกล็ดให้แมวออก
พรุ่งนี้จะไปซ่อมให้

เดินขึ้นบ้านมาแบบซึมๆ 
กะว่าตายแน่ ไปแงะบ้านคนอื่นยามวิกาล
งานนี้ต้องสั่งข้าวผัดกะโอเลี้ยงร้านไหน
สักพัก..
กัดฟันลงไปลองใส่อีกรอบ
เจอไอ้ถั่วร้องม้าว ๆ อยู่ด้านนอก
.
@$%&%$#%...

อยากจะจับตัวมันเขย่า ๆ ๆ ๆ ให้หัวหลุดนัก T^T
ทีนี้ก็เหลือเจ๊นี่ล่ะ ที่ต้องพยายามใส่บานเกล็ดคืนให้สำเร็จ

...

พยายามไม่ลน กลั้นใจ และไม่ตด
สักพัก ใส่ได้แฮะ
แต่ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่
รอยขาปิเนียมของบานเกล็ดแลดูบุบบิบบู้บี้ T^T

แต่ก็ยังดี ที่ใส่ได้สำเร็จ
.

เดินขึ้นมาอย่างโล่งใจได้เปลาะหนึ่ง
แหมะก้นลงกะเก้าอี้.......
เพิ่งนึกออก !!
ว่านี่รอยนิ้วมือคงติดกระจกอื้อเลยสินะ
เพราะบานเกล็ดบ้านนั้นฝุ่นเขลอะหนาเป็นฟุต
ถ้าพรุ่งนี้เค้าแจ้งตำรวจก็สงสัยจะเป็นเรื่อง
.

ฮือออ
พรุ่งนี้ขอเมนู ข้าวผัดปูกับน้ำแดงโซดาด้วยนะ






วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าของเจ้าเหลือง ตอน เสือเหลืองเป็นนิ่ว


เสือเหลืองเป็นแมวจรฮ่ะ..อ้อ ไม่สิ เหลืองเป็นแมวเคยจร ที่บัดนี้ก็ยังจรอยู่ แต่พิเศษใส่ลูกชิ้นเยอะหน่อย ที่มันจะจรแบบมีที่กินที่อยู่ แต่เที่ยวแท่ด ๆ นอนนอกบ้านไปเรื่อย ทั้งๆ ที่อยากให้เหลืองอยู่ติดบ้าน แต่เหลืองก็ติดนิสัยอินดี้ ไม่ยอมอยู่ติดบ้านซะงั้น

แรกเริ่มที่เจอเหลืองก็เมื่อปีที่แล้วฮ่ะ เหลืองเป็นแมวตัวผู้ตัวใหญ่ ที่อ้อนที่สุดใน 3 โลก เป็นของแถมที่มากับเจ้าหนมปัง แมวจรเด็กอีกตัวที่อิชั้นพยายามจะอุปการะ แต่อิ่เหลืองนี่มันเหมือนเห็บหมา คือถ้าเจ๊ออกไปผูกไมตรี เอาอาหารไปให้เจ้าหนมปังเมื่อไหร่ อิ่เหลืองก็จะพยายามมาขอเอี่ยวด้วยทุกครั้ง

สรุปก็คือแค่ 7 วันที่ได้รู้จักกัน เหลืองก็ย้ายนิวาสถานเข้ามาอยู่ในบ้านเจ๊หน้าตาเฉยค่ะ >0</

พอมาอยู่ในบ้าน เหลืองก็ทำตัวดี๊ดีนะคะ ฝากเนื้อฝากตัวกับแม่กับเจ๊ อ้อนมากๆ ให้กินก็กิน ให้นอนก็นอน (ขาดแต่เล่นละคอนสัตว์เท่านั้นล่ะ) ตัวก็อ้วนบึ้บบั่บน่ากอด เจ๊ก็วางใจสิฮะ พาไปทำวัคซีน ทำหมันเรียบร้อย จนอยู่มาวันหนึ่ง เจ้าหนมปังลูกแมวตัวเมียที่เพิ่งเป็นสาว ดันท้องขึ้นมาซะนี่ (แอบไปท้องมาตอนไหน?) อิ่เจ๊ก็เลยมีแมวงอกออกมาปีเดียวถึง 5 ตัว คือ แม่หนมปัง ลูกหนมถั่ว ลูกหนมถ้วย ลูกเปียกปูน แล้วก็เจ้าเหลืองนี่ล่ะ

เหตุการณ์มันน่าจะแฮปปี้เอนดิ้งฮ่ะ ถ้าเสือเหลืองไม่รังเกียจรังงอนเด็ก ๆ ที่เกิดใหม่ จนต้องหนีออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านอีกรอบซะก่อน มิไยที่อิ่เจ๊พยายามจะง้องอน อุ้มเข้าบ้านบ้าง กักตัวไว้ในบ้านบ้าง แต่พอสบโอกาส เหลืองก็จะหนีออกจากบ้านไปทุกที

มารู้ตัวอีกที เหลืองก็กลายเป็นแมวกึ่งจรถาวรไปแล้วฮ่ะ คือ มันจะมาแว้บๆ ให้ได้เห็นหน้าบ้าง เจอหน้าก็ถูไถให้หายคิดถึงกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่เหลืองก็จะไปนัวเนียอยู่ที่บ้านร้านถ่ายรูปที่ห่างกันไปอีก 3-4 ห้อง(ตึก)แถวแทน ซึ่งบ้านนั้นเค้าก็มีแมวอยู่แล้วหลายตัวนะ เหลืองก็เลยได้อานิสงฆ์ มีอาหารเม็ดเหลือๆ จากแมวบ้านนั้นให้กินบ้างเป็นครั้งคราวไป

ปีนึงผ่านไปค่ะ เจ๊นึกละ ว่าคงไม่ได้เหลืองคืนมาแน่ๆ ก็ทำใจได้อยู่ฮ่ะ เพราะอย่างน้อยก็มีเจ๊ร้านถ่ายรูปให้กินอยู่มั่ง แต่เหมือนขว้างแมวไม่พ้นคอ เพราะจู่ๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เองที่เหลืองถูกอุ้มใส่ตะกร้ามาให้ถึงที่บ้าน

"น้องแหม่ม ดูให้หน่อย เจ้าเหลืองมันเป็นอะไรไม่รู้ เลือดไหลออกจากจู๋มันตลอดเลย แล้วมันก็ซึม ไม่กินข้าว"

เอิ่มมม...งานคงเข้าเจ๊แล้วสินะ ........."หนูว่ามันอาจเป็นนิ่วค่ะ เดี๋ยวหนูลองโทร.ถามหมอก่อนนะคะ" ว่าแล้วเจ๊ก็โทร.หาหมอตูนซึ่งเป็นหมอประจำตัวพวกแมว ๆ ที่ตึก


"มันน่าจะเป็นนิ่วค่ะพี่แหม่ม ต้องรีบเอามานะคะ ฉี่ไม่ออกจนเลือดไหลออมาไม่หยุดแบบนี้ แสดงว่าอาการหนักพอควรค่ะ ทิ้งไว้อาจไตวาย แล้วก็ตายได้"

กรรม.....อิ่เจ๊ส่ายหัวด๊อกแด๊ก ว่าแล้วก็ยืมตะกร้าเจ๊ร้านถ่ายรูปไว้ก่อน แล้วก็หอบเจ้าเหลืองไปให้หมอดู สรุปว่าเป็นนิ่วจริงฮ่ะ กระเพาะปัสสาวะบวมเบ่ง ฉี่ไม่ออกมานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ สรุป งานนี้เหลืองก็เลยต้องโดนสวนท่อปัสสาวะ แล้วก็คาท่อไว้อย่างนั้นเพื่อระบายของเสียออกจากกระเพาะปัสสาวะให้เร็วที่สุด


เดี๋ยวๆ ก่อนจะลุยออกทะเล เรามาคุยกันเรื่อง นิ่วในแมวกันก่อน ปกติแล้วแมวจะเป็นนิ่วได้นี่มีหลายสาเหตุค่ะ อย่างเช่น การกินอาหารเม็ดยี่ห้อเดิมๆ ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน การกินน้ำน้อย การกินน้ำไม่สะอาด การกลั้นปัสสาวะ อ้วน เครียด เรียกว่าสาเหตุ แม่งงง...หว่านแหมาก...และไอ้แมวพวกนี้ถ้าเป็นนิ่วแล้วไม่รักษา มันสามารถตายได้ภายใน 2-4 วันเลยนะ เนื่องจากของเสียในท่อปัสสาวะย้อนกลับไปยังไต แล้วทำให้ไตวาย คือ จะบอกว่าเสือเหลืองมันทำบุญมาดีอ่ะ อย่างน้อยก็มีคนหอบหิ้วมาให้อิ่เจ๊รักษาได้ทัน


"พี่แหม่มต้องให้เหลืองกินยาด้วยนะคะ เป็นยาแก้อักเสบ,ยาสลายนิ่ว,ยาขยายท่อปัสสาวะ แล้วก็ต้องให้กินอาหารเฉพาะของแมวเป็นนิ่วด้วยค่ะ"

"ให้กินนานแค่ไหนอ่ะหมอ"

"ประมาณเดือนนึงค่ะ" ..........ห๊ะ.....เดือนนึง !! แล้วใครจะป้อนยาเอร็งวะเหลือง T^T เอากลับไปคืนเจ๊ร้านถ่ายรูปเค้าก็คงไม่ป้อนให้หรอก และขืนไม่ป้อน หมอบอกว่ามันจะกลับมาเป็นนิ่วอาการเดิมๆ อย่างรวดเร็ว สรุป...เอร็งอยู่พักฟื้นที่ตึกนี่ก่อนละกัน


อิเจ๊ข่มขืนใจเหลืองให้อยู่ที่ตึกได้ 8 วันค่ะ ทุกวันเหลืองจะได้รับการป้อนยา เช้าเย็น โดยนักป้อนยามือฉมัง (ลูกน้องที่ออฟฟิศอิ่เจ๊เอง) บางวันก็ก่อวีรกรรมแหกห้องขังออกไปค้างเติ่งอยู่บนฝ้าเพดานให้อิ่เจ๊ตกใจเล่น บางวันก็ร้องเพลงคอรัส เมี๊ยวม๊าวให้ทุกคนบนตึกหนวกหูเล่น สรุป พอย่างเข้าวันที่เก้า ลูกน้องก็อัปเปหิเสือเหลืองคืนมาให้เจ๊แทน

"ไม่ไหวแล้วพี่แหม่ม มันร้องดังมาก ร้องทั้งคืน ลูกค้าบนตึกจะบ่นเอาซะก่อนอ่ะ"

...แล้วเจ๊จะกักบริเวณเอร็งยังไงฟระ...ไหนจะป้อนยาอีก ปล่อยหลุดมือไปเลยดีมั้ยเนี่ย...


สรุปว่าตอนนี้เหลืองกลับมาพักฟื้นที่บ้านนะคะ เมื่อคืนก็ให้นอนที่ห้องโถง (สี่หนมนอนในห้องนอนเจ๊แทน) ส่วนกลางวันก็จะขังไว้ที่ระเบียงบ้าน นี่ก็ได้ยินเสียงแม๊วม๊าว โวยวายอยู่ฮ่ะ เดี๋ยวสักพักจะปล้ำป้อนยา ก็คงจะทุลักทุเลน่าดูล่ะ

ไว้เหลืองอาการคืนหน้ายังไงจะมาบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังอีกรอบนะคะ






วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าของเจ้าถั่ว ตอน ถั่วแอดว้านซ์


ถ้าไม่นับว่าใครเป็นพี่เป็นน้อง ใครตัวใหญ่ตัวเล็ก ตัวที่แสบสันต์กะละมังแตกที่สุดก็เห็นจะเป็น "เจ้าถั่ว" น้องเล็กตัวสุดท้องของแม่หนมปังนั่นล่ะ

เพราะนอกจากจะดำรงตำแหน่งแมวพูดมากประจำบ้าน (ประเภทถามคำตอบคำ ถามสองคำตอบสี่คำ) แล้ว มันยังเป็นแมวเที่ยวเก่ง(แบบต้องการไม้ยมกหลายๆ ตัว) เที่ยวอย่างเดียวไม่ว่า เดี๋ยวได้ไปติดบ้านโน้นบ้านนี้ จนอิ่เจ๊มันรู้จักคนละแวกบ้านเค้าไปทั่วละ T^T

เมื่อเช้าก็เช่นเคยค่ะ ตื่นเช้ามา แมวๆ ทุกตัวก็แวะมากินอาหารเม็ดกันครบหมดละ เหลือแต่เจ้าถั่วนี่ล่ะ ที่จนจะปาเข้าไปเก้าโมงเช้า ก็ยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็น

ใจอิ่เจ๊เองก็นึกตะหงิดๆ อยู่ค่ะ ว่าป่านนี้มิไปติดแหง็กอยู่บ้านใดบ้านหนึ่งอีกหรอกหรือ ลองเรียกดู ก็ได้ยินเสียง "แอ๊ววววว..." ร้องตอบมาเบาๆ แบบหาต้นทางไม่ได้ (โชคดีที่มันเป็นเด็กช่างพูด พอเจ๊เรียกคำ มันก็ตอบคำ) อิ่เจ๊ก็ร้อนใจสิคะทีนี้ เพียรหาพิกัดค่ะ ว่าจะไปติดอยู่ตรงไหน วิ่งขึ้นวิ่งลงจากชั้นล่างจนถึงชั้นดาดฟ้าของบ้าน หลายๆ รอบ เท่านั้นยังไม่พอ ยังออกไปร้องเรียกบริเวณทุ่งมหาสมบัติ (เพราะเต็มไปด้วยอภิมหาสมบัติของบ้านต่างๆ วางสะสมเหมือนที่ว่างหลังตึกแถวทั่วไป) อีกด้วย

เรียกอยู่นานเลยค่ะ (ป่านนี้คนแถวนั้นคงจะรู้หมดละ ว่าแมวบ้านอิชั้นชื่อไรมั่ง) จนสุดท้ายพอเงยหน้าขึ้นดูต้นเสียง โน่นจ้าาาาา...แม่ตัวดีนั่งหน้าแป้นหูลู่ร้อง "แอ๊วววว...." เสียงเล็ก..เล้กกก..อยู่บนกันสาดหลังคาดาดฟ้าบ้านชาวบ้านนู่น !!

ไอ้ถั่วววว.......อิ่เจ๊ตาโตเป็นไข่ห่าน

ซวยล่ะตรู..งานนี้ถึงกับปวดท้องน้อย ไมเกรนแทบขึ้น..พิเคราะห์ดูแล้ว ก็ยังไม่เห็นหนทางที่มันจะลงมาเองได้เลยนะ


"แกร๊...นี่แกขึ้นไปบนนั้นได้ไงล่ะน่ะ....@#@!$^&%$***) ......"

"แอร๊วววว...." เสียงเล็กๆ ร้องตอบ

"เออ..เจ๊ถามว่าขึ้นไปได้ยังไง แล้วจะลงได้มั้ยห๊ะ..ลงม๊าาา ขึ้นไปทางไหนก็ลงมาทางนั้นเด่ะ..."

"แอร๊วววว...วววววว.........."

..... เอาความปวดกะโหลกไปสิบแต้ม T^T.....


ทีนี้ปัญหาเกิดเลยค่ะ เจ้าของบ้านหลังนี้เป็นน้องที่รู้จักกันพอสมควร แต่นานๆ ทีถึงจะได้คุยกัน (คือรุ่นพ่อแม่รู้จักกันอะไรแบบนี้ พอแม่น้องเค้าเสีย น้องเค้าก็เลยอยู่ตัวคนเดียวในบ้าน) ไอ้ครั้นจะทะเล่อทะล่าไปขอขึ้นบ้านเค้า คิดดู...ใครจะยินดีให้ขึ้นไปฟระ

อิชั้นเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานนิดหน่อยฮ่ะ ที่ต้องพูดแบบนี้ เพราะโดยปกติแล้ว บ้านเราเองถือเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลนะคะ จะเรียบร้อย,จะรกยังไง เราก็อยู่ได้ แต่ถ้าให้คนอื่นขึ้นไปบนบ้านเราโดยเราไม่ทันตั้งตัวละ อะไรต่อมิอะไรที่หมกๆ เอาไว้ มันมิเผยต่อหน้าประชาชีให้ได้อายเลยเหรอ

จริงๆ แล้วอิชั้นอยากบอกว่าไม่ถือฮ่ะ เพราะรู้ดีว่าแต่ละบ้านก็มีวิธีจัดเก็บบ้านไม่เหมือนกัน แอบคิดว่า..บ้านตัวเองก็รกใช่ย่อย ถึงพยายามเก็บทำเท่าไหร่ก็ไม่ชนะการใช้ชีวิตประจำวันซะที

คราวนี้เอาไงล่ะ..ด้วยความที่จำเป็น สุดท้ายอิชั้นก็เลยต้องบากหน้าไปขออนุญาตน้องเค้า

"เอ่อออ......เอ่อ....เจ๊จะขอรบกวนขึ้นไปรับแมวบนชั้นดาดฟ้าที่บ้านน้องหน่อยได้มั้ยคะ..."

"คะ ??!!.." น้องงงเป็นไก่ตาแตก อยู่ดีๆ ก็มีคนขอขึ้นบ้านซะงั้น (น้องเป็นผู้ชายหวานๆ นะคะ นิสัยดี จริงๆ ก็พอได้เห็นกันมาตั้งแต่เด็กหรอก)

"มันติดอยู่บนกันสาดหลังคาดาดฟ้าน้องน่ะค่ะ ไม่รู้มันขึ้นไปได้ไง"

"โห ข้างบนโน้นเลยเหรอคะพี่..." น้องเค้าลังเล แต่ด้วยความที่มันจำเป็นอ่ะเนอะ น้องเค้าก็เลยต้องยอมให้อิชั้นขึ้นไปบนบ้าน "บ้านหนูรกหน่อยนะคะพี่ อย่าถือสานะคะ..." น้องขอโทษขอโพยไปตลอดทางที่ขึ้นบันไดไปชั้นบนสุด

"ไม่เป็นไร ๆ...บ้านเจ๊ก็รกเหมือนกัน เข้าใจอ่ะ อยู่คนเดียวทำงานบ้านคนเดียว ทำไม่ชนะหรอก " อิชั้นปลอบใจน้อง ก็จริงนะ อยู่คนเดียวทำงานบ้านเอย งานนอกเอย จะให้บ้านเรียบร้อยสวยงามเหมือนมีคนใช้คอยปัดกวาดเช็ดถูให้ตลอดเวลาอ่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก

ว่าแล้วอิชั้นก็ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงห้องที่ต่อเติมอยู่บนชั้นดาดฟ้า...

"แม๊ววว ๆ ๆ" น้องเค้าใจดีอ่ะ อุตส่าห์เปิดหน้าต่างเรียกให้ แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งคนอื่นเรียกมันยิ่งหนี ไอ้เด็กพวกนี้มันไม่เอาใครเลยนอกจากเจ๊..

"เดี๋ยวเจ๊เรียกเองก็ได้จ้ะ..มันคุ้นเสียงเจ๊อ่ะ...." ว่าแล้วอิ่เจ๊ก็แผดเสียงแปดหลอด "...ไอ้ถั่ววววววว...."

"แอร๊วววววว.....แอร๊ววว แอร๊ววว แอร๊ววว แอร๊ววววว" เสียงร้องตอบรัวยังกะข้าวตอกแตก

"มานี่มา..เร็วๆ เจ๊มารับละ"


เด็กถั่วไต่มาตามกันสาดปูน ก่อนกระโดดผลุบขึ้นเกาะหน้าต่างให้อิ่เจ๊จับทันที..แต่พอเห็นมีคนอื่นอยู่ด้วยเท่านั้นล่ะ ทั้งดิ้นทั้งถีบเลยจ้าาา..ตื่นคนยังกะเจ๊กตื่นไฟ ถีบไม่ถีบเปล่ากางเล็บดั้ว ว่าแล้วก็ฟาดแคว่กกก..ลงมาตรงมุมกรามอิ่เจ๊หนึ่งที..

เลือดไหลแหมะๆ T^T แต่เราต้องเก็บอาการสินะ

"อู้ยยย..มาจริงๆ ด้วย หูย ขนลุกเลยอ่ะ...มันจำเสียงพี่ได้จริงๆ อ่ะ" น้องยกมือทาบอก..ตัลล๊ากกก..

"มันไม่ค่อยเอาคนอื่นน่ะจ้ะ ขอบใจมากๆ เลยนะ นี่ถ้าไม่ได้น้องสงสัยมันจะยังติดอยู่อีกนาน จะลงเองได้ป่าวไม่รู้"

"ไม่เป็นไรค่ะพี่แหม่ม หูยยย..ขนลุกเลยอ่ะ...." น้องประทับใจในความสามารถของอิ่เจ๊หรือเจ้าถั่วก็ไม่รู้เนี่ย 5555+

ตอนนี้เด็กถั่วเสด็จกลับมาอยู่บ้านแล้วค่ะ กินอาหารเม็ดเรียบร้อย แล้........ลงไปแร่ดอีกแระ..ได้ยินเสียงแง๊ว ๆ เกแมวต่างถิ่นอยู่บนหลังคาหลังบ้าน T^T พยายามไปตะโกนห้ามก็ไม่ฟัง ก็เลย..ปล่อยมันเหอะ ให้ได้แผลเหมือนอิ่เจ๊ซะมั่งจะได้เข็ด !!!

31/01/2559